xIoT คืออะไร? ช่องโหว่ที่คุณไม่เห็น แต่แฮกเกอร์มองเห็น!

ในโลกที่ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ xIoT (Extended IoT) กำลังกลายเป็นประตูหลังที่แฮกเกอร์ใช้เจาะเข้าสู่ระบบองค์กรโดยไม่รู้ตัว อุปกรณ์ที่ดูธรรมดา เช่น กล้องวงจรปิด เครื่องปรับอากาศ เซ็นเซอร์ตรวจจับ หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์ กลับกลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่เปิดโอกาสให้การโจมตีไซเบอร์เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากองค์กรยังมองข้ามความเสี่ยงจาก xIoT เท่ากับเปิดประตูรับความเสียหายที่อาจทำลายทั้งข้อมูล ทรัพย์สิน และชื่อเสียงโดยไม่ทันตั้งตัว

xIoT คืออะไร?

xIoT (Extended Internet of Things) คือแนวคิดที่ขยายขอบเขตของ IoT แบบดั้งเดิมไปสู่กลุ่มอุปกรณ์ที่กว้างขึ้นที่ครอบคลุมทั้ง:

• IoT (Internet of Things) – อุปกรณ์ทั่วไปที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ เซ็นเซอร์ อุปกรณ์สำนักงาน อาทิ

  • กล้องวงจรปิด (IP Camera)

  • Smart TV

  • Smart Printer

  • เซ็นเซอร์ตรวจจับควัน หรือเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ

  • Smart Access Control (ระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ)

  • ระบบปรับอากาศที่ควบคุมผ่านอินเทอร์เน็ต

• OT (Operational Technology) – ระบบที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิต เช่น PLC, SCADA, ระบบควบคุมโรงงาน หรือระบบไฟฟ้า

  • PLC (Programmable Logic Controller) ในโรงงาน

  • SCADA System (ระบบควบคุมและเก็บข้อมูลในกระบวนการผลิต)

  • RTU (Remote Terminal Unit) สำหรับควบคุมในระบบไฟฟ้า

  • DCS (Distributed Control System)

  • ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับควบคุมเครื่องจักรและสายการผลิตอัตโนมัติ

• IoMT (Internet of Medical Things) – อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อมต่อระบบเครือข่าย เช่น เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในโรงพยาบาล หรือระบบสาธารณสุข

  • เครื่องช่วยหายใจที่เชื่อมต่อระบบเครือข่าย

  • เครื่องวัดสัญญาณชีพแบบออนไลน์

  • ระบบติดตามผู้ป่วย (Patient Monitoring System)

  • เตียงผู้ป่วยอัจฉริยะ (Smart Bed) ในโรงพยาบาล

• IoBT (Internet of Battlefield Things) – อุปกรณ์ทางการทหารหรือยุทโธปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อในสนามรบหรือภารกิจทางทหาร

  • โดรนทางทหาร (Military Drone)

  • กล้องตรวจการณ์สนามรบ

  • อุปกรณ์สื่อสารไร้สายที่เชื่อมต่อข้อมูลการปฏิบัติการแบบ Real-time

  • เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หรือการระเบิดในพื้นที่ปฏิบัติการ

ทำไม xIoT ถึงมีความสำคัญ?

1. ทุกอุปกรณ์คือจุดเสี่ยงใหม่ (Every Device is a Threat Surface)xIoT ขยายขอบเขตของการเชื่อมต่อไปไกลกว่าคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์แบบเดิม อุปกรณ์เล็กๆ อย่างกล้องวงจรปิด เซ็นเซอร์ โรงงานอัจฉริยะ หรือแม้แต่เครื่องปรับอากาศ สามารถกลายเป็นช่องทางที่แฮกเกอร์เจาะเข้าระบบหลักได้โดยง่าย หากไม่ถูกป้องกัน

2. การมองเห็นและการควบคุม (Visibility and Control) ลดลงหลายองค์กรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในระบบตัวเองมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออะไรอยู่บ้าง หรือมีช่องโหว่อะไรซ่อนอยู่ ทำให้การป้องกันหรือแก้ไขปัญหาทำได้ยากและล่าช้า

3. การโจมตี xIoT ก่อผลกระทบร้ายแรง (Critical Impact)หากแฮกเกอร์เจาะผ่านอุปกรณ์ xIoT ได้สำเร็จ พวกเขาสามารถทำลายระบบการผลิต หยุดกระบวนการทำงาน หรือขโมยข้อมูลสำคัญได้ ซึ่งผลลัพธ์อาจกระทบตั้งแต่รายได้ ชื่อเสียง ไปจนถึงความอยู่รอดขององค์กร

4. ปริมาณอุปกรณ์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว (Explosive Growth)จำนวนอุปกรณ์ xIoT ทั่วโลกเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด การขยายตัวนี้ยิ่งทำให้พื้นที่เสี่ยงขยายใหญ่ขึ้นแบบควบคุมได้ยากขึ้นทุกวัน

5. การโจมตีจริงเกิดขึ้นแล้ว (Real Attacks Are Happening Now)มีตัวอย่างมากมายที่องค์กรถูกโจมตีผ่านอุปกรณ์เล็กๆ เช่น กล้องวงจรปิด, เครื่องควบคุมอุตสาหกรรม (ICS) หรือแม้แต่ระบบเครื่องมือแพทย์ และทำให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล

xIoT คือจุดอ่อนใหม่ในระบบไซเบอร์ขององค์กร และการละเลยอาจนำไปสู่การโจมตีขั้นรุนแรง ถึงเวลาแล้วที่องค์กรจะต้องเห็น xIoT เป็น “ทรัพย์สินที่ต้องป้องกัน” ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

"อย่ารอให้ภัยคุกคามจาก xIoT ทำลายองค์กรของคุณ — ปกป้องทุกอุปกรณ์ ทุกการเชื่อมต่อ ด้วย Phosphorus Cybersecurity โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อโลกของ xIoT อย่างแท้จริง"

ติดต่อเรา